เรียนต่อต่างประเทศ กับ Im Education
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งเรียนภาษาอังกฤษ เรียนระดับมัธยม หรือเรียนระดับปริญญา และหลักสูตรระยะสั้น Summer ภาคฤดูร้อน ในประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา อเมริกา อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ หรือ ประเทศฝั่งเอเชียอย่างสิงคโปร์ และมาเลเซีย ให้คำปรึกษาทุกคำถาม เรียนต่อต่างประเทศใช้เงินเท่าไหร่ เรียนนานแค่ไหน ประเทศไหนเรียน และทำงานได้ อิม เอ็ดดูดคชั่น พร้อมให้คำตอบ
อิม เอ็ดดูเคชั่น
เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางจากสถาบันในต่างประเทศ มากกว่าร้อยสถาบันทั่วโลก กับประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาและดูแลนักเรียนมากกว่า 10 ปี
ครบจบที่เดียวเรื่องเรียนต่อต่างประเทศ

แนะแนวการศึกษา
ให้คำปรึกษาแนะนำหลักสูตรการเรียนต่อต่างประเทศ ให้เหมาะสมกับความต้องการ งบประมาณ และระยะเวลาของการเตรียมตัว และการเรียน

สมัครเรียน
บริการประสานงานขั้นตอนต่างๆ ของการสมัครเรียน พร้อมตรวจสอบเอกสาร แนะนำการเขียน SOP และการขอทุนการศึกษาต่างๆ

ขอวีซ่า
เราช่วยดูแลเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อการขอวีซ่า และปฐมนิเทศก่อนการเดินไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อให้นักเรียนมีความพร้อม อุ่นใจก่อนออกเดินทาง

ดูแลอย่างต่อเนื่อง
เพื่อความสบายใจของนักเรียน และความมั่นใจผู้ปกครอง การดูแลต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง จนสำเร็จการศึกษา
Destination
Countries
ค้นหาประเทศที่ใช่ หลักสูตรที่ชอบ
ในการเรียนต่อต่างประเทศ
“One must travel to learn.”
– Mark Twain
ประเทศที่น่าสนใจ
เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม ค่าครองชีพ แค่ค่าเล่าเรียนไม่เท่ากัน อีกทั้งระยะเวลาในการเรียนแต่ละหลักสูตรก็ต่างกัน อาทิ การเรียนปริญญาตรีในอเมริกาใช้เวลาเรียน 4 ปี แต่ในอังกฤษ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ปริญญาตรีเรียนกัน 3 ปี และในขณะเดียวกัน เราสามารถเรียนจบปริญญาตรีที่สิงคโปร์ได้เพียง 2 ปี เท่านั้น มากไปกว่านั้น ยังมีหลายๆ ประเทศให้นักเรียนทำงาน Part time ได้ ในขณะเรียนหนังสือด้วย จึงจะเห็นได้ว่าแต่ละที่ มีข้อดีแตกต่างกันไป ดังนั้นควรศึกษาขอดีที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน โดยอิมเอ็ดดูเคชั่น ขอแนะนำประเทศต่างๆ ที่เหมาะกับการเรียนต่อในต่างประเทศดังต่อนี้

นิวซีแลนด์ประเทศที่งดงามทางธรรมชาติ ปลอดภัย และสนับสนุนการเรียนในการเรียนทุกระดับชั้น โดยเฉพาะเหมาะกับนักเรียนระดับมัธยม เพราะค่าใช้จ่ายไม่แพง แต่ในขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยก็ติด Top Rank ของโลกอีกด้วย

สหราชอาณาจักร ต้นแบบการเรียนรู้ และภาษาอังกฤษ ที่ใช้กันทั่วโลก นับว่าเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อความคิด ความรู้ และแฟชั่น ที่ดึงดูดคนจากทั่วทุกมุมโลก โดยการเรียนต่ออังกฤษจะมีทางเลือกที่มากมาย เพราะมีมหาวิทยาลัยมากกว่า 100 สถาบัน

สหรัฐอเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพ ที่พัฒนาอยู่แถวหน้าของโลกอยู่เสมอ และเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาติทั่วโลกนิยมไปเรียนต่อมากที่สุด ดังนั้นการเรียนต่ออเมริกาจึงยังเป็นเป้าหมายหลักของการต่อยอดความรู้ในทุกสาขาวิชา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาขาทางด้านเทคโนโลยีที่นำหน้าอยู่เสมอ

ออสเตรเลียประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย การเดินทางสะดวก ไม่ไกลจากเมืองไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีหลักสูตรมากกว่า 22,000 หลักสูตร โดยเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนต่างชาติ เป็นอันดับ 3 ของโลก

ประเทศแคนาดา เมืองแห่งโอกาส มี 2 ภาษาราชการคือ อังกฤษ และฝรั่งเศษ ทำให้เป็นเมืองของพหุวัฒนธรรมโดยแท้ การเรียนมีคุณภาพ และเปิดโอกาสให้กับการทำงานอีกด้วย

สวิตเซอร์แลนด์ประเทศในฝันของใครหลายๆ คน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการการท่องเที่ยว และการบริการ ดัวนั้นการเรียนต่อสวิตเซอร์แลนด์ จึงเป็นที่หนึ่งทางด้านงานบริการ และการโรงแรมเพราะเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการฝึกงานในสถานที่ประกอบการจริงๆ

สิงคโปร์ผู้นำด้านการศึกษาของเอเชีย และของโลก ที่เดินทางสะดวก ปลอดภัย และสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้เพียง 2 ปี เท่านั้น จึงทำให้สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของการเรียนต่อต่างประเทศของคนทั่วโลก
What students are saying
ผู้บริหาร New (Zealand) Gen
Papanui High School
นักเรียนมัธยมนิวซีแลนด์
University of Portsmouth เมืองท่าน่าจะชิลล์ เรียนต่ออังกฤษที่นี่..ดีมะ
เรียนต่ออังกฤษกับ Foundation ISC Portsmouth
เรียนต่อแคนาดา…ภาษาไม่เก่งไม่เป็นไร
Strathmore High School, Calgary
โรงเรียนมัธยมที่มีหอพักในแคนาดา
บทความ Updates
Blog
เช็คความพร้อมก่อนเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ
เป็นคำถามที่หลายคนอาจกำลังถามตัวเองอยู่ก็เป็นได้ การเรียนต่อมีหลายแนว ทั้งเรียนภาษาระยะสั้น ระยะยาว เรียน Diploma ทางวิชาชีพ หรือเรียนปริญญา ต้องเริ่มจากการสำรวจเป้าหมายของตัวเองก่อน
สำหรับคนที่อยากรีเฟรซตัวเองจากการทำงานหนักๆ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ มานานจนหมด passion หรืออยากท่องเที่ยวแบบได้ประโยชน์ไปด้วยในตัว อาจลองสมัครเรียนภาษาระยะสั้นสัก 2-3 เดือนดูก่อน เป็นเวลาที่ไม่สั้นและไม่ยาวเกินไปกำลังสนุก
สำหรับคนที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากพัฒนาตัวเองเพื่อตำแหน่งงานที่สูงขึ้น ก็มี 2 แบบให้เลือกอีกก็คือ 1. เรียนภาษาอย่างเดียวเพื่อฝึกทักษะภาษาโดยเฉพาะ แนะนำว่าให้ลงเรียนภาษาหลักสูตร General English สัก 6 เดือนไปเลยค่ะ เห็นพัฒนาการแน่นอน 2. เรียนภาษาเพื่อเตรียมเรียนต่อ แนะนำให้ลงเรียนภาษาหลักสูตร English for Academic Purpose ซึ่งจะมีการโฟกัสไปที่การใช้ภาษาเชิงวิชาการ ที่ใช้ในการเขียนรายงาน ทำวิจัย พรีเซ้นต์งานหน้าชั้น การอภิปรายเชิงวิชาการในชั้นเรียน ซึ่งหลายสถาบันสามารถนำคะแนนจากหลักสูตรนี้ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นพาร์ทเนอร์กันได้เลยโดยไม่ต้องสอบ IELTS อีกรอบ
ส่วนคนที่อยากย้ายประเทศ แนะนำให้มองหาหลักสูตรวิชาชีพ (Diploma) ในสาขาที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในประเทศที่สนใจ แน่นอนว่าก็คงต้องเริ่มเตรียมต้นจากการเรียนภาษาเช่นกัน
แต่ละประเทศมีข้อดีของตัวเอง ต้องเช็คเงื่อนไขที่ตรงกับใจเราเป็นหลัก เช่น ถ้าอยากเรียนภาษาและทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนไปด้วย ตัวเลือกที่เหมาะสมก็คืออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่อนุญาตให้ผู้ถือวีซ่านักเรียนทุกคนสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ 20 ชม.ต่อสัปดาห์ ถ้าอยากเรียนปริญญาตรีให้จบเร็ว ตัวเลือกที่ลงตัวคือสิงคโปร์ ที่มีหลักสูตรปริญญาตรีจบภายใน 2 ปี ถ้าอยากทำงานต่างประเทศระยะยาว ตัวเลือกที่น่าสนใจคือแคนาดา ที่มีเงื่อนไขให้คนจบ Diploma หลักสูตร 2 ปี อยู่ทำงานต่อได้อีก 3 ปี และมีสิทธิ์ขอวีซ่าระยะยาวเพื่ออยู่อาศัยถาวรได้เลยภายใน 1 ปีหลังได้งานทำ
มีวิธีเลือกสาขาเรียน 3 แบบ คือ 1.เลือกจากความสนใจของเรา จะทำให้การเรียนสนุก มีความกะตือรือล้นในการเรียน และทำผลคะแนนได้ดี 2.ต่อยอดจากความรู้เดิม เช่น จบ ป.ตรีด้านบริหาร ต่อ ป.โท MBA จะทำให้การสมัครเรียนต่อง่ายกว่าการย้ายข้ามสาย 3.เลือกจากความต้องการของตลาด เช่น งานด้าน Data Sciene กำลังเป็นที่ต้องการ ก็เลือกเรียนสาย IT เพราะจบมามีงานรองรับมากมาย
ความพร้อมจะเกิดขึ้นเมื่อมีการศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวก่อนการเดินทางเป็นอย่างดี เช่น เข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรที่จะไปเรียนเป็นอย่างดี ว่าจะต้องเรียนกี่วิชา วิชาอะไรบ้าง ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่สำหรับค่าเรียน ค่าครองชีพในแต่ละเดือน ต้องเตรียมใจให้พร้อมเผชิญปัญหา และแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ต้องให้เวลาตัวเองในการปรับตัวและต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ทั้งการเรียน อากาศ อาหาร ที่พัก เพื่อน ฯลฯ
เราสามารถประเมินค่าใช้จ่ายก่อนสมัครเรียนได้ โดยตรวจสอบค่าเรียน ค่าที่พัก ค่าครองชีพรายเดือน ตลอดจนค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าประกันสุขภาพ ได้จากผู้มีประสบการณ์ และเว็บไซต์ต่างๆ
เงื่อนไขการทำงานพิเศษในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ในอเมริกา และสิงคโปร์ นักเรียนไม่สามารถทำงานพิเศษได้ ในแคนาดา และอังกฤษ นักเรียนสามารถทำงานพิเศษได้เมื่อเข้าเรียนวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยแล้ว ในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ นักเรียนสามารถทำงานพิเศษได้เมื่อลงเรียนภาษา 3 เดือนขึ้นไป และนักเรียนมัธยมนิวซีแลนด์สามารถทำงานได้เมื่อเรียนชั้น Year 12-13
แล้วแต่หลักสูตรและประเทศที่จะเดินทาง สำหรับระดับปริญญาควรสมัครล่วงหน้าประมาณ 1 ปี ระดับมัธยมควรสมัครล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 เทอม ทั้งนี้เนื่องจากทางสถาบันมีการกำหนดโควต้า และวันรับสมัครของเขาไว้ และเราก็ต้องเผื่อเวลาในการเตรียมเอกสารวีซ่า และพิจารณาวีซ่าด้วย
การเรียนภาษาไม่จำเป็นต้องสอบก่อน แต่ละมีการสอบวัดผลพื้นฐานภาษาในวันแรกที่เริ่มเรียน การเรียนมัธยม แล้วแต่ข้อกำหนดของโรงเรียนที่สมัคร การเรียนปริญญา ต้องสอบ IELTS/TOEFL เพื่อใช้ในการยื่นสมัครเรียน และอาจมีข้อสอบที่บางสาขาวิชาบังคับเพิ่มเติม เช่น BMAT, GMAT
สำหรับนักเรียนมัธยม มีตัวเลือก 2 ลักษณะ คือหอพักกับโฮมสเตย์ นักเรียนภาษาสามารถเลือกพักกับโฮมสเตย์ ที่พักนักศึกษา หรืออพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวได้ (กรณีอายุมากกว่า 18 ปี) ส่วนระดับมหาวิทยาลัย สามารถเลือกหอพักมหาวิทยาลัย และหอพักเอกชนได้ โดยทางมหาวิทยาลัยจะมีแผนก Accommodation คอยให้คำแนะนำ
การยื่นขอวีซ่าเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ เพราะผลการพิจารณาวีซ่าในแต่ละครั้ง จะมีผลต่อประวัติการยื่นขอวีซ่าทั้งหมด การถูกปฏิเสธวีซ่าหนึ่งครั้ง อาจมีผลให้วีซ่าในครั้งต่อไปยากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดเตรียมเอกสารให้พร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสเตทเม้นท์ธนาคาร ซึ่งสถานทูตส่วนใหญ่ยึดเป็นเอกสารสำคัญในการพิจารณาผลวีซ่า เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนไปใช้สวัสดิการของประเทศเขา