สวิตเซอร์แลนด์…การเรียนที่สร้างมืออาชีพ

สวิตเซอร์แลนด์ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตั้งอยู่ทวีปยุโรปกลาง มีพรมแดนติดกับประเทศเยอรมนี ประเทศฝรั่งเศส ประเทศอิตาลี ประเทศออสเตรีย และประเทศลิกเตนสไตน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีพื้นที่มากกว่า 70% เป็นเขตภูเขา คือ เทือกเขาแอลป์ มีแม่น้ำสำคัญ คือ แม่น้ำไรน์ แม่น้ำโรน แม่น้ำทิซิโน และแม่น้ำอินนอกจะเป็นศูนย์กลางของยุโรปแล้ว ถือได้ว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางการเมือง จึงทำให้หลายๆ ครั้ง สวิตเซอร์แลนด์ได้รับเลือกให้เป็นเป็นศูนย์กลางในการร่วมมือทางการเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงเป็นที่ตั้งขององค์กรนานาชาติหลายแห่งอีกด้วย

สวิตเซอร์แลนด์...สวรรค์บนดิน

สวรรค์บนดิน

ดินแดนที่ต้อนรับทุกคนให้ไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้ตลอดทุกช่วงปี จะไปเล่นสกีในฤดูหนาว จะเดินเท้าบนเทือกเขา Jungfrau ชมดอกไม้เปลี่ยนสีบนเทือกเขา Alps นั่งรถไฟขึ้นเขา Pilatus หรือ Titlis ร่องเรือในทะเลสาบ  Brienz หรือเยี่ยมชมความงดงามอลังการของสถาปัตยกรรมในเมืองต่างๆ แอบแวะไปทักทายบ้านของ Albert Einstein ที่เมือง Bern เมืองหลวงของสวิต อีกทั้งความงดงามตลอด เส้นทางยามนั่งรถไฟระหว่างเมือง เชื่อได้ว่าทุกๆ การเดินทาง ที่นี่มีความประทับใจแน่นอน นอกจากความงามที่ว่ามาแล้ว สวิตยังมีความโดดเด่นด้านการศึกษา เพราะโดยทั่วไปคนสวิตสามารถพูดได้ถึง 4-5 ภาษา ทั้ง เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน โรมานซ์ และอังกฤษ นั่นเป็นเพราะความดินแดนที่อยู่กลางทวีปยุโรปเชื่อมต่อทั้ง อิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมัน ทำให้คนที่นี่ต้องพร้อมรับมือกับคนทุกชนชาติ การเรียนในเมือง Zurich, Lucerne หรือ Geneva ซึ่งเป็น เมืองท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คนนี้

สวิตเซอร์แลนด์ มีชื่อทางการว่า “สมาพันธรัฐสวิส” ช่วงที่ถือได้ว่าเป็นช่วงของการก่อตั้งประเทศสวิสเซอร์แลนด์หรือสมาพันธรัฐสวิสอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1291 เมื่อมณฑล 3 มณฑลในเขตเทือกเขาแอลป์ คือ Uri, Schwyz และ Unterwalden ได้รวมตัวกันขึ้นเป็นอดีตสมาพันธรัฐสวิส (Old Swiss Conferderation หรือที่เรียกเป็นภาษาเยอรมันว่า Alte Eidgenossenschaft ซึ่งการรวมกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อต้องการแยกออกเป็นประเทศ แต่เพียงเพื่อต้องการจะต่อต้านอำนาจของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก อย่างไรก็ตามการรวมกลุ่มครั้งนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากราชวงศ์ฮับส์บวร์กและมีการทำสงครามกันเรื่อยมา ในปี1315 กลุ่มของชาวบ้านที่เป็นทหารของสวิสในสมัยนั้นก็ทำสงครามชนะทหารของราชวงศ์ฮับส์บวร์กในสงคราม Morgaten หลังจากนั้นเมือง Zürich, Lucerne, Glarus, Zug และ Bern ก็ได้เข้าร่วมเป็นอดีตสมาพันธรัฐสวิส และได้มีการเรียกชื่อกลุ่มการรวมตัวของมณฑล 8 มณฑลนี้ว่า Schwyz ภายหลังจากการรวมตัวนี้แล้ว ก็ยังคงมีการรวมตัวของมณฑลต่าง ๆ อยู่เรื่อย ๆ จนเมื่อสิ้นสุดปี ค.ศ. 1513 ก็มีมณฑลเข้าร่วมทั้งหมด 13 มณฑล

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) ได้มีการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติขึ้น โดยมีสำนักงานใหญ่ที่สหรัฐอเมริกาและสำนักงานภาคพื้นยุโรปที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศหลายประเทศได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาติแต่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเจ้าบ้านกลับไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในสมัยแรก เนื่องจากสวิตเซอร์แลนด์ยืนยันยึดมั่นในหลักการความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด โดยองค์การสากลแห่งแรกที่สวิสเข้าร่วมเป็นสมาชิกภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คือองค์การ UNESCO ซึ่งเข้าร่วมในปี พ.ศ. 2491 (ค.ศ. 1948) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) ต่อมาในปี 2548 ประชาชนชาวสวิตเซอร์แลนด์ได้ทำการลงประชามติเพื่อให้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เข้าร่วมเป็นประเทศในสนธิสัญญาเช็งเก็น (Schengen Agreement)

ตามข้อกำหนดในสนธิสัญญาเช็งเก็น นักท่องเที่ยวที่มีใบอนุญาตเช็งเก็น (Schengen Visa) แบบมัลติเพิลของประเทศใดประเทศหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มเช็งเก็นสามารถเดินทางเข้าออกประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มเช็งเก็นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าของประเทศนั้น ๆ ปัจจุบันประเทศในกลุ่มเช็งเก็นมีด้วยกันทั้งหมด 27 ประเทศรวมทั้ง ประเทศเบลเยียม, ประเทศฝรั่งเศส, ประเทศอิตาลี, ประเทศลักเซมเบิร์ก, ประเทศเนเธอร์แลนด์, ประเทศเดนมาร์ก, ประเทศกรีซ, ประเทศโปรตุเกส, ประเทศสเปน, ประเทศเยอรมนี, ประเทศออสเตรีย, ประเทศฟินแลนด์, ประเทศสวีเดน, ประเทศนอร์เวย์, ประเทศไอซ์แลนด์, ประเทศมอลตา, สาธารณรัฐเช็ก, ประเทศเอสโตเนีย, ประเทศฮังการี, ประเทศโปแลนด์, ประเทศสโลวาเกีย, ประเทศสโลวีเนีย, ประเทศลัตเวีย, ประเทศลิทัวเนีย ประเทศโมนาโกและ ประเทศโครเอเชีย

May – Septembert อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 20°C – 28°C

September – November อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 7°C – 13°C

November – March อุณหภูมิโดยเฉลี่ย -3°C – 6°C

March – Mayr อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 6°C – 13°C

การเรียนแบบมืออาชีพ

การเรียนในเมือง Zurich, Lucerne หรือ Geneva ซึ่งเป็น เมืองท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คนนี้ นอกจากจะเป็น เมืองที่สวย อากาศดี อารยธรรมงามแล้ว วิธีการเรียนในสวิตของระดับวิชาชีพ ยังมีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ เพราะที่นี่การเรียนต้องควบคู่กับการทำงาน! เรียนครึ่งปี ทำงานครึ่งปี การทำงานที่ว่าไม่ใช่การฝึกงาน แต่ที่นี่ให้ทำงานแบบพนักงานจริง เหนื่อยจริง ได้เงินเดือนจริงๆ การันตีรายได้เดือนร่วม 75,000 บาท กันเลยทีเดียว ประเทศอื่นเรียน 3-4 ปี จบปริญญาตรี แต่ ที่นี่เรียน 3 ปีจบปริญญาตรีพร้อมประสบการณ์การทำงาน 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง เรียกได้ว่าจบมาพร้อมทำงานได้ทันทีอย่างนี้ แบบนี้นายจ้างที่ไหนจะไม่ชอบ

ปริญญาโทที่นี่ก็เช่นกันเรียน 6 เดือน ทำงาน 6 เดือน (ในสายวิชาบริการและบิหารธุระกิจ) เพราะสวิตเน้นให้คนทำงานได้จริง ฝึกให้นักศึกษาเป็นมืออาชีพในการทำงาน แถมการเรียนที่สวิตนี้ ยังให้นักศึกษาเรียนภาษาเยอรมันหรือฝรั่งเศสเพิ่มอีกด้วย เพราะเค้าเชื่อว่า ความสามารถทางภาษาเพิ่มช่องทางในการทำงานในอนาคตของนักเรียนอีกด้วย

สาขาที่ทางสวิตโด่งดังทั้งปริญญาตรี และปริญญาโท ก็คง ยกให้ Hotel & Hospitality Management หรือจะเป็น บริหารธุรกิจ Global Business Management รึจะเป็นทาง ด้านการทำอาหาร Culinary art ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครใน โลกกันเลยทีเดียว

City Information

zurich map

ซูริก เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนเหนือของประเทศ บริเวณจุดเหนือสุดของทะเลสาบซือริช (Lake Zurich) มีประชากรในเขตตัวเมืองทั้งหมดประมาณ 400,000 คน และประชากรบริเวณรอบตัวเมืองรวมทั้งสิ้น 1.4 ล้านคน ซูริกเป็นศูนย์กลางของระบบการขนส่งของประเทศ ทั้งระบบขนส่งรถไฟ เส้นทางการคมนาคมทางบกและอากาศ โดยเป็นที่ตั้งของสนามบิน และสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

เป็นศูนย์กลางทางการเงินขนาดใหญ่ที่สุด โดยเป็นที่ตั้งของสถาบันทางการเงินและการธนาคารยักษ์ใหญ่มากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของศูนย์วิจัยต่างๆ เนื่องจากมีการเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ ทำให้ซูริกดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาตั้งบริษัทเป็นจำนวนมาก ซูริกเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในสหภาพยุโรปเลยทีเดียว

ซูริกเป็นเมืองทันสมัย ที่ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมของยุโรปโบราณ จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมาย อย่าง หอนาฬิกาแห่งโบสถ์เซนต์ ปีเตอร์ St. Peter, โบสถ์หอคอยคู่กรอสมุนเตอร์ Grossmunster, เขตเมืองเก่า Old Town เขตบ้านเมืองและหมู่บ้านยุโรปโบราณยุคเมดิอิวัล Medieval ที่อนุรักษ์ไว้ อาคารในแถบนี้มีอายุนับย้อนไปได้ถึง 2,000 ปีเลยทีเดียว

มี Bahnhofstrasse ถนนบานโฮฟซตราสเซอ เป็นถนนสายช้อปปิ้งหลักของเมืองที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะร้านแบรนด์เนมระดับโลกที่มารวมตัวกันอยู่บนถนนเส้นนี้

จนขึ้นชื่อว่าเป็น “ถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก” อีกด้วย

ลูเซิร์น เป็นเมืองหลวงของรัฐลูเซิร์นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคกลางของประเทศ มีประชาการ 8 หมื่นกว่าคน เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ของภาคกลาง ใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก

ตั้งอยู่ชายฝั่งด้านตะวันตกติดกับทะเลสาบลูเซิร์น มีแม่น้ำร็อยส์ไหลผ่านกลางเมือง เมืองนี้สามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์ เขาพีลาทุส และเขาริกี มีภูมิอากาศเย็นตลอดทั้งปี สนามบินที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ สนามบินซูริก ซึ่งมีรถไฟวิ่งตรงเพียงชั่วโมงเดียวสู่ลูเซิร์นเท่านั้น

ไฮไลท์สำคัญของเมืองนี้ก็คือ

Chapel Bridge (Kapellbrucke) and Water Tower
ชาเปิลบริดจ์ และวอเตอร์ทาวเวอร์  แลนมาร์คของเมืองลูเซิร์น และยังเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุกว่า 670 ปีเลยที่เดียว  สะพานถูกสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1333 และมีการบูรณะ ขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1993 เนื่องจากถูกไฟไหม้ บนสะพานจะมีรูปวาดทั้งหมด 120 รูป เป็นรูปที่ถูกวาดในยุคศตวรรษที่ 17

Dying Lion of Lucerne Monument
อนุสาวรีย์สิงโตสะอื้น

อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเป็นของขวัญที่รัฐบาลฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกรียรติ และรำลึกถึงทหารรับจ้างสวิสจำนวน 786 นายที่เสียชีวิตในหน้าที่เพื่อปกป้องพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อังตัวแนตต์ จากการโจมตีที่พระราชวังตุยเลอรี ในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.1792

Mount Pilatus ยอดเขาพิลาตุส (Pilatus) หรือภูเขามังกร ยอดเขาพิลาตุส เป็นยอดเขาคู่บ้านคู่เมืองลูเซิร์น

นอกเหนือจากนี้ ยังมีย่านเมืองเก่าที่เป็นแหล่งช๊อปปิ่ง มีร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ๆ ริมแม่น้ำร็อยส์ นับได้ว่าเป็นเมืองที่สามารถสร้างความประทับใจให้ทุกคนที่มาเยือนได้อย่างง่ายดายจริงๆ

bern map

เบิร์น หรือ แบร์น เมืองหมี เมืองนาฬิกาเต้นระบำ เมืองน้ำพุ เป็นเมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรประมาณ 130,000 คน มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ภาษาราชการคือ ภาษาเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1863เบิร์นได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นอกจากนี้เบิร์นยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ. 2010 อีกด้วย เมือง

กรุงเบิร์นเป็นเมืองเก่าที่มีแม่น้ำ Aare ล้อมรอบ 3 ด้าน สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณเมืองเก่า เราสามารถเดินชมรอบๆ เมืองได้ โดยมีรถรางวิ่งผ่านให้บริการแทบทุกเวลาก็ว่าได้

st gallen map

ซังคท์กัลเลิน (ภาษาเยอรมัน) แซ็ง-กาล (ภาษาฝรั่งเศ) หรือ ซันกัลโล (ภาษาอิตาลี) เป็นเมืองหลวงของรัฐซังคท์กัลเลินในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในหุบเขาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้กับชายแดนประเทศออสเตรีย อาสนวิหารซังคท์กัลเลินในเมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ซังคท์กัลเลินเป็นหนึ่งในเมืองที่อยู่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์เหนือระดับน้ำทะเล ทำให้ในฤดูหนาวของทุกปีเมืองจึงต้องเจอกับกับหิมะปริมาณมหาศาล

เมืองซังคท์กัลเลินมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของประเทศ โดยมหาวิหาร Abbey of Saint Gall ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ที่การตกแต่งภายในมหาวิหารนั้นอลังการงานสร้างมาก สามารถนั่งชมงานศิลปะตามผนัง และเพดานได้เป็นชั่วโมงๆ เลยนอกจากตัวมหาวิหารแล้ว จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดอีกแห่งคือ ห้องสมุดของมหาวิหาร (Abbey Library) ซึ่งมีชื่อว่า Stiftsbibliotek ห้องสมุดแห่งนี้มีหนังสือ และเอกสารสำคัญที่มีอายุเกิน 1000 ปีอยู่หลายเล่ม พร้อมด้วยการตกแต่งที่สวยงามทำให้องค์กร UNESCO แต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกเป็นที่เรียบร้อย โดยการเดินทางมายัง St. Gallen นั้นก็เพียงนั่งรถไฟจากเมือง Zurich ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง

zuos map

ซูออซ (ภาษาเยอรมัน) หรือ ซวัก เมืองเล็กๆ กลางหุบเขาแอลป์ มีอากาศเย็นตลอดปี ซึ่งมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 1,200 คนเท่านั้น โดยที่เมืองแห่งนี้นับว่าเป็นจุดที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งของสวิสก็ว่าได้ มีความ Authentic Romanesque แบบตะวันตกโรมันแท้ๆ ดั้งเดิม หรือที่เรียกว่าศิลปะแบบนอร์มัน ที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียนเมืองนี้ไม่ขาดสาย และที่นี้ยังเป็นสถานที่ในฝันของนักสกีอย่างแท้จริง เพราะเป็นสกีรีสอร์ท ที่โด่งดัง แถมยังมีโรงเรียนสอนสกีโดยเฉพาะอีกด้วย

interlaken map

อินเทอร์ลาเคิน มีความหมายตรงตัวที่แปลว่า “เมืองระหว่างสองทะเลสาบ” นั่นก็เพราะว่าเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun Lake และทะเลสาบ Brienz จนทำให้เมืองนี้เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมและอีกสาเหตุหนึ่งคือเมือง Interlaken เป็นเมืองปากทางเข้าเส้นทางขึ้นไปเยือนเทือกเขา Jungfrau ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ Switzerland

อินเทอร์ลาเคินตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเบิร์นไปราว 56 กิโลเมตรเท่านั้น ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 570 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จากอินเทอร์ลาเคินมีทางรถไฟที่จะขึ้นไปสู่หมู่บ้านต่างๆ เพื่อเยี่ยมชมเทือกเขาหิมะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ และได้ถูกขนาดนามว่า Top of Europe ซึ่งก็จะประกอบด้วยภูเขาหลายลูกด้วยกัน ยอดเขาที่สูงที่สุดคือยุงเฟรา (4,158 เมตร) รองลงมาคือแมนช์ (4,107 เมตร), อีเกอร์ (3,970 เมตร) ด้วยความสวยงาม และยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกหลั่งไหลมาที่อินเทอร์ลาเคินอย่างไม่ขาดสาย

montreux map

มองเทรอซ์ เมืองเล็กๆ ริมทะเลสอบเจนีวา ที่โอบล้อมไปด้วยไร่ไวน์ และทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ (Alps) เมืองนี้มีประชากรอยู่เพียงประมาณ 26,500 คน แต่ด้วยบรรยายกาศระดับ 7 ดาวนี้ ที่นี่จึงเป็นที่พักตากอากาศของคนสวิส ด้วยวิวราคาหลักล้านนี้ชาวโลกก็มาเที่ยวไม่ขาดสาย ไม่ว่ามองมุมไหนก็จะเห็นเทือกเขาแอลป์คู่กับทะเลสาบเจนิวาเสมอ แถมที่นี่ก็มีปราสาทซิลยอง (Chillon Castle) ที่เป็นเหมือน Landmark คู่มองเทรซ์ ที่ไม่มาเยือนคงนับว่ามาไม่ถึงแน่ๆ โดยปราสาทซิลยองนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี สร้างข้นมาเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางน้ำ และสินค้าในทะเลสอบเจนีวา และอยู่ห่างจากตัวเมืองมองเทรอซ์ เพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น

มี highlight สถานที่ห้ามพลาดหลายๆ ที่ อย่างเช่น

Quays of Montreux
Rochers-de-Naye
Freddie Mercury
Chillon Castle
Vevey

GoldenPass Panoramic
Lake Geneva
Old City Vevey
Lavaux, Vineyard Terraces

lausanne map

โลซาน เมืองที่ผู้คนใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบเจนีวา โดยติดกับเมืองเอวีย็อง-เล-แบ็งของประเทศฝรั่งเศส โลซานเป็นเมืองหลวงของรัฐโว และตั้งอยู่ห่างจากเมืองเจนีวาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 60 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 135,00 คน เป็นเมืองที่คนไทยรู้จักกันดี เพราะนอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ครั้งหนึ่งยังเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8  รัชกาลที่ 9 และสมเด็จย่าด้วย

โลซานน์เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม โอบล้อมด้วยทะเลสาบเจนีวาและหุบเขาน้อยใหญ่ลดหลั่นกันไป บรรยากาศดี เงียบสงบ และมีความคลาสสิคจากการเป็นเมืองเก่า สถานที่อย่าง มหาวิหารโลซานน์ (Lausanne Cathedral) หรือ วิหาร Notre-Dame  วิหารเก่าแก่แห่งเมืองโลซานน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมโกธิค ด้านในโอ่อ่าและงดงามด้วยกระจกหลากสี 105 บาน และหน้าต่างกุหลาบ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของโลกยุคกลาง

โลซานน์ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งโอลิมปิก เพราะเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ดังนั้นการเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก (Olympic Museum) เพื่อศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของการแข่งขันโอลิมปิกตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้เช่นกัน

geneva map

เจนีวา หรือออกเสียงในภาษาฝรั่งเศสท้องถิ่นว่า เฌอแนฟว์ เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรประมาณ 198,000 คน ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก นครเจนีวาตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำโรนซึ่งไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา เจนีวามีสถานะเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐแห่งรัฐเจนีวา

เจนีวาถือเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางของโลก โดยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ทางการทูต เจนีวาถือเป็นเมืองที่มีองค์กรระหว่างประเทศตั้งอยู่มากที่สุดในโลก อาทิ องค์กรสหประชาชาติ United Nations องค์กรผู้ลี้ภัย UNCHR องค์กรอนามัยโลก WHO และกาชาดสากล อีกด้วย

ในปี 2017 เจนีวาได้รับการจัดอันดับโดย Global Financial Centres Index ให้เป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินอันดับ 15 ของโลก และเป็นที่ 5 ของทวีปยุโรป และยังได้รับการจัดอันดับโดย Mercer’s Quality of Living index ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลกในปีเดียวกันอีกด้วย

เจนีวามีสถานที่น่าสนในหลายแห่ง เช่น Maison Tavel บ้านเก่าแก่ที่สุดของเจนีว่า สร้างตั้งแต่ปี 1334 จุดเด่นของอาคารหลังนี้ก็คือรูปปั้นหัวคนและสัตว์ที่ตกแต่งอยู่ด้านหน้าของอาคาร และ โบสถ์ St. Pierre Cathedral ที่เริ่มสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โบสถ์หลังนี้ใช้เวลาสร้างเกือบ 70 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมกอธิค เป็นโบสถ์ของพวกโปรแตสแต้นท์ที่สวยงามและอลังการมาก

นอกเหนือจากความสวยงามของสิ่งก่อสร้างนี้แล้ว ถนนสายเศรฐกิจ 2 เส้น อย่าง Rue de Rhone ขายสินค้าไฮเอนด์ แบรนด์เนมราคาสูง และถนน Rue de Marche เป็นที่ตั้งของ แบรนด์เนมราคาปานกลาง และห้างสรรพสินค้าของเจนีวา ก็เป็นแหล่องท่องเที่ยวสำคัญเช่นกัน

lugano map

ลูกาโน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐตีชีโน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนตินกับประเทศอิตาลี มีประชากรประมาณ 63,500 คน ใช้ภาษาอิตาลีเป็นหลัก และถือเป็นชุมชนภาษาอิตาลีที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศอิตาลีเลยทีเดียว เมืองลูกาโนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ทางตะวันออกของเมืองติดกับทะเลสาบลูกาโน ในปัจจุบันลูกาโนถือเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่อันดับสามของสวิตเซอร์แลนด์รองจากซูริกและเจนีวา พื้นที่ราว 10% ของเมืองนี้ใช้ทำการเกษตร, 21.0% ใช้ทำการป่าไม้, 14.0% เป็นบ้านเรือน และถนนหนทาง ในปี 2016 สวิตเซอร์แลนด์ได้เปิดใช้งานอุโมงค์ฐานกอทท์ฮาร์ด อุโมงค์สัญจรที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างซูริกกับลูกาโนเหลือเพียง 1 ชั่วโมง 40 นาที เท่านั้น

ลูกาโนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในเมืองมีพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญอันน่าสนใจหลายแห่ง และดาวเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังเมืองนี้ก็คือ ทะเลสาบลูกาโน ที่ถูกล้อมรอบด้วยภูมิประเทศธรรมชาติของเทือกเขา Lugano Prealps ที่งดงามเกินบรรยายจริงๆ

กิจกรรมของเมืองชิคๆ นี้ ก็ยังมี นั่งกระเช้าไฟฟ้าหรือรถไฟขึ้นเขาไปที่ยอดเขา Monte San Salvatore ซึ่งสูง 912 เมตร หรือเยี่ยมชม Santa Maria degli Angeli โบสถ์สมัยศตวรรษที่ 16 ริมฝั่งทะเลสาบใกล้กับใจกลางเมือง หรือทั้งเดินเล่นเพลินรอบหมู่บ้านจำลอง Swiss Miniature Village ซึ่งนี้มีรายละเอียดอันประณีต ซึ่งจะเห็นได้ว่า ลูกาโนนี้มีลูกเล่นมีเรื่องราวให้ผู้คนมาศึกษามากมายจริงๆ

FAQ

สวิตเซอร์แลนด์มีชื่อเสียงทางด้านการโรงแรมมาอย่างยาวนาน หลักสูตรที่สอนในสวิตเซอร์แลนด์นั้นมีมาตรฐานสูง มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม และนักเรียนสามารถฝึกงานและได้รับรายได้จากนายจ้าง

ยอดเขาทิตลิส (Titlis), ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau), ปราสาทกรุยแยร์ (Gruyeres Castle) และอื่นๆอีกมากมาย สายรักธรรมชาติ ภูเขาห้ามพลาดเลยต้องมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต

เรียนปริญญาตรีที่สวิสเซอร์แลนด์ 3 – 4 ปี  [เรียน+ฝึกงาน]

เทอมการศึกษาแบ่งเป็น 2 เทอม (Semester)

  • เทอม 1 : Winter Semester กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนมีนาคม
  • เทอม 2 : Summer Semester กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนกรกฎาคม

หลักสูตรเรียนเป็นภาษาอังกฤษ โดยภาษาราชการมี 3 ภาษาได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และโรมานซ์ส

เงินเดือนขั้นต่ำในฝึกงานจะอยู่ที่ประมาณ CHF 2,212 ต่อเดือน

อิมเอ็ดดูเคชั่น

เป็นศูนย์แนะแนวการเรียนต่อต่างประเทศระดับมาตรฐานสากลได้รับการรับรองหน่วยงานทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศมากมาย อีกทั้งยังเป็นสมาชิก Tieca  รวมถึงผ่านการอบรมโดยสถานทูตต่างๆ มากมาย