ช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง
Maine, New York, North Carolina,
Florida, Ohio, Kentucky, Indiana
Main City
New York I Boston
San Francisco I LA
Capital
Washington, D.C. มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตโคลัมเบีย
Population
ประชากรประมาณ 325 ล้านคน (2017)
Area
พื้นที่ 9.83 ล้านตารางกิโลเมตร 50 รัฐ และ 1 เขตการปกครอง
สหรัฐอเมริกา คือ ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในภาษาไทยของดินแดนแห่งความฝัน เสรีภาพ และความยิ่งใหญ่ ส่วนชื่อเรียกภาษาอังกฤษนั้นยิ่งเยอะกว่าใครทั้ง the United States of America, the United States, the U.S., the USA, the States, หรือ America
อเมริกา…เสรีภาพทางการศึกษาที่ไม่เคยหยุดพัฒนาInternational students in USA
(2015/2016)
Graduate Employability
QS World University Rankings 2018
ranked in the top 100 in the world.
QS World University Rankings 2018
ระบบการเมืองของสหรัฐอเมริกาเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย มีประธานาธิบดีเป็นประมุขสูงสุด ไม่มีนายกรัฐมนตรี มีสภา 2 สภา คือ วุฒิสภา (Senate) และ สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) ประธานาธิบดีในตำแหน่งได้คราวละ 4 ปี และเป็นไปได้ไม่เกิน 2 สมัย พรรคการเมืองมีอยู่หลายพรรค แต่ที่สำคัญจะมี 2 พรรค คือ พรรครีพับลิกัน (Republican) และ พรรคเดโมเครต (Democrat) ระบบการปกครองของสหรัฐอเมริกาเป็นแบบสหพันธรัฐ กล่าวคือรัฐต่างๆ 50 รัฐมีสิทธิในการปกครองตนเองสูงมาก สมาชิกรัฐสภาและผู้ว่าการทุกรัฐจะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน มี Washington DC ตั้งอยู่ในเขต District of Columbia เป็นเมืองหลวงและเป็นศูนย์กลางของการปกครองภายในรัฐแต่ละรัฐจะแบ่งการปกครองเป็นเขตเมือง เทศบาล และการปกครองระดับท้องถิ่น
ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศทุกรูปแบบ ลักษณะอากาศของแต่ละเขตจะแตกต่างกันไป เช่น ในฤดูร้อน อากาศด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้บริเวณทะเลทราย อุณหภูมิเกือบเท่าแถบเส้นศูนย์สูตร ส่วนฤดูหนาวในเขตทางตอนเหนือก็จะหนาวจัดจนหิมะตกหลายเดือน แถบที่อากาศอบอุ่นสบายไม่ค่อยมีหิมะคือที่ California Florida และ Arizona ส่วนฝนช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเปลี่ยนสีสันสวยงามมาก
ฤดูกาลมีทั้งหมด 4 ฤดูคือ
เนื่องด้วยขนาดอันกว้างใหญ่เวลาในอเมริกาเองจึงแตกต่างกันแบ่งออกเป็น 4 เขตเวลาหลัก
ซึ่งประเทศที่มีสี่ฤดูโดยทั่วไปรวมถึงอเมริกายังมีเรื่องของ Day Light Saving Time (DST) เป็นการปรับเปลี่ยนเวลาตามแสงอาทิตย์ ในฤดูใบไม้ผลิ เริ่มที่ประมาณกลางเดือน มี.ค. เวลาจะเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง และจะปรับเวลากลับคืนไปในช่วงก่อนเข้าหน้าหนาวราวกลางเดือน พ.ย.
ช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง
Maine, New York, North Carolina,
Florida, Ohio, Kentucky, Indiana
ช้ากว่าประเทศไทย 13 ชั่วโมง
Arkansas, Texas, Kansas,
North/South Dakota
ช้ากว่าประเทศไทย 14 ชั่วโมง
Montana, Wyoming,
Colorado, New Mexico
ช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง
California, Washington, Nevada
ด้วยพื้นที่ขนาด 9.83 ล้านตร.กม. (ใหญ่กว่าประเทศไทย 18 เท่า) จำนวนประชากรกว่า 300 ล้านคน ใน 50 รัฐ กับอีก 1 เขตการปกครอง (วอชิงตัน ดี.ซี.) สหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รัฐที่มีประชากรมากที่สุดสามอันดับแรกได้แก่ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และนิวยอร์ค
ทว่าประเทศยักษ์ใหญ่แห่งนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวกันของอาณานิคมเพียง 13 แห่งทางฝั่งตะวันออก ซึ่งประกาศอิสรภาพการปกครองในวันที่ 4 ก.ค. 1776 ก่อนจะขยายอำนาจครอบคลุมพื้นที่อารักขาของอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน เม็กซิโก และรัสเซียเหนือตอนกลางของทวีปอเมริกาในศตวรรษที่ 19
การรวมตัวอย่างเป็นปึกแผ่นของอเมริกา กลับนำมาซึ่งความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองในปี 1860 เมื่อสงครามภายในประเทศสิ้นสุดลง อเมริกาได้กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก และยิ่งโดดเด่นเหนือใคร เมื่อก้าวสู่สงครามโลกครั้งที่สองด้วยการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เป็นชาติแรก อเมริกาเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และภายหลังสิ้นสุดยุคสงครามเย็น อันเนื่องมาจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตอเมริกาจึงก้าวสู่การเป็นรัฐอภิมหาอำนาจเดียวของโลกอย่างเต็มภาคภูมิ
มหานครนิวยอร์ก เมืองที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของความเจริญทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน การเงิน ศิลปะความบันเทิง และยังเป็นศูนย์กลางแฟชั่นที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ประกอบไปด้วย 5 เขต (borough) คือ แมนฮัตตัน (Manhattan), บร็องซ์ (Bronx), ควีนส์ (Queens), บรู๊กลิน (Brooklyn) และสเตตันไอส์แลนด์ (Staten Island) โดยมีเพียงแมนฮัตตัน และสเตตันไอส์แลนด์ มีลักษณะเป็นเกาะ ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ โดยฝั่งตะวันออกเรียกว่า แม่น้ำอีสต์รีเวอร์ (East River) และเรียกว่าแม่น้ำฮัดสัน (Hudson River) ในฝั่งตะวันตก
เกาะแมนฮัตตันคือหัวใจอยู่กลางมหานคร เป็นที่ตั้งของหน่วยงานต่างๆ อย่างองค์การสหประชาชาติ หรือตลาดหุ้นวอลสตรีท และยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย อาทิ เทพีสันติภาพ (Lady Liberty), พิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum, Central Park, Times Square ศูนย์รวมโรงละคอนบรอดเวย์ และบริเวณ Fifth Avenue ซึ่งเป็นย่านช็อปปิ้ง และสินค้าแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Saks Fifth, Macy’s และ Bloomingdale หรือ Century 21 ซึ่งเป็นห้างที่มีราคาย่อมเยาว์สำหรับนักช็อป
เดอะบรองซ์โบโรฮ์ที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของมหานครนิวยอร์ก เป็นที่ตั้งของสนามแยงกี้ สเตเดียม ถิ่นของทีมเบสบอล นิวยอร์ก แยงกี้ ขณะที่สวนสัตว์ในเขตเมืองที่ใหญที่สุดให้สหรัฐอเมริกาอย่างสวนสัตว์บรองซ์ ก็อยู่ในโบโรฮ์นี้ เดอะบรองซ์เป็นส่วนเดียวของมหานครนิวยอร์กที่ไม่ได้เป็นเกาะ และเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมดนตรีแร็พและฮิปฮอปด้วย
ประชากรประมาณ 8.39 ล้านคน
บอสตันเมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐอเมริกา และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตนิวอิงแลนด์ ถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุด มั่งคั่ง และบอสตันยังได้ชื่อว่า เป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยกว่า 100 แห่ง โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยที่สำคัญและมีชื่อเสียงอื่นๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยบอสตันวิทยาลัยบอสตัน มหาวิทยาลัยทัฟส์ (Tufts University) และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) อีกด้วย รวมทั้งมีบริการขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบายทั้งรถโดยสารประจำทาง เรือเฟอร์รี่-ชัตเตอร์น้ำ (Water Shuttle) รถไฟใต้ดินและรถไฟบนดิน
ไฮไลท์สำคัญของเมืองนี้ก็คือ
Boston Public Garden
สวนสาธารณะประจำเมืองบอสตัน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นสวนสาธารณะที่เก่าที่สุดของประเทศอเมริกา เป็นทั้งปอดและหัวใจของเมือง เป็นสถานที่จัดงานรื่นเริงและเทศกาลต่างๆ ของเมืองตลอดปี และยังเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของชาวเมืองอีกด้วย สวนแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณจุดเริ่มต้นของ “เส้นทางเดินแห่งอิสรภาพ” เรียกได้ว่าเป็นสวนสาธารณะแห่งประวัติศาสตร์ก็ว่าได้
Freedom Trail
เส้นทางเดินแห่งอิสรภาพ
ถนนเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองมากว่า 250 ปี โดยสองข้างทางถนนสายนี้เต็มไปด้วยสถานที่ประวัติศาสตร์ในช่วงยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งบอสตัน (Museum of Fine Arts Boston), พิพิธภัณฑ์ไม้ดอกไม้ประดับอิซาเบลล่า สจ๊วต การ์ดเนอร์ (Isabella Stewart Gardner Museum) รวมทั้งเขตเมืองเก่า ย่านบีคอน ฮิลล์ (Beacon Hill) ที่เป็นแหล่งรวมงานศิลปะ สินค้าแอนทีคขึ้นชื่อ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านค้าบูทีคน่ารักๆ และสวนสาธารณะอีกด้วย
ประชากรประมาณ 694,583 คน
ซานฟรานซิสโก เมืองที่มีเต็มเปลี่ยมไปด้วยแรงดึงดูดแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียนี้ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่นักเดินทางทั่วโลกต่างใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง เพราะซานฟรานซิสโกมีทั้งธรรมชาติที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย และสดชื่นตลอดทั้งปี แถมยังได้รับฉายาว่าเป็นเมืองแห่งสายหมอก เพราะจะมีหมอกขาวปกคลุมเมืองอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวชิคๆ เก๋ๆ ให้ได้ไปเที่ยวชมหลากหลายแบบ จึงทำให้ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
สัญลักษณ์ประจำเมืองก็คือ Golden Gate Bridge (สะพานโกลเด้นเกต) มีลักษณะเป็นสะพานแขวนขนาดใหญ่ สีส้มโดดเด่น ที่เปิดใช้มาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1937 ทอดข้ามอ่าวซานฟรานซิสโก เพื่อเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองซานฟรานซิสโกกับเมืองมารีน เคาน์ตี มีชื่อเสียงในเรื่องของความยิ่งใหญ่อลังการ ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นหนึ่งในลิสต์ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกาที่ทุกคนต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
สะพานโกลเดนเกตนี้มีความยาวถึง 1,280 เมตร กว้าง 27 เมตร ออกแบบให้ทนต่อกระแสน้ำและแรงลม รวมถึงทนต่อการเกิดแผ่นดินไหว จึงได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมแห่งหนึ่งในโลก และยังเคยถูกจัดอันดับให้เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย
การเดินทางข้ามสะพานสามารถขับรถไปเอง นั่งรถบัส (Golden Gate Transit) และถ้าปั่นจักรยานก็จะได้ชมวิวให้จุใจและได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของสะพานแบบเต็มๆ
นอกจากนี้เมืองซานฟรานซิสโกก็ยังมีถนน California Street ที่ถือว่ามีความสวยงามแปลกตา เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของเมือง มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าแบรนด์ดัง รวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งอย่าง Union Square ซึ่งจะทำให้พบเจอซานฟรานซิสโกในรูปแบบแห่งความทันสมัย อีกทั้งยังจะได้พบเจอ เคเบิลคาร์ ซานฟรานซิสโก ที่ถือว่าเป็น The Must ของการมาเยือนเมืองนี้เลยทีเดียว เพราะถือได้ว่าเป็นรถรางที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 เลยทีเดียว ซานฟรานยังมีทีเด็ดอีกมากมาย….ถ้าไม่ไปสักครั้งก็น่าเสียดายจริงๆ
ประชากรประมาณ 883,305 คน
ลอสแอนเจลิส หรือที่รู้จักในชื่อ แอลเอ (L.A.) เป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการบันเทิง ลอสแอนเจลิสตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีประชากรประมาณ 4 ล้านคนในเขตตัวเมืองและเขตรอบนอกประมาณ 17.5 ล้านคนเลยทีเดียว ลอสแอนเจลิสได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีการผสมปนเปของวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เนื่องจากการอพยพของคนหลายเชื่อชาติโดยเฉพาะชาวเอเชีย และอเมริกาใต้ เนื่องมาจากลักษณะของอากาศที่อบอุ่นสบายนั่นเอง
แอลเอเป็นที่รู้จักในฐานะเป็นที่ตั้งของฮอลลีวูด มหาอำนาจด้านความบันเทิงของโลก และมีโรงเรียนตลอดจนมหาวิทยาลัยลอสแองเจลิสที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เช่น University of California, University of Southern California, California Institute of Technology, Santa Monica College, Fairfax High School รวมถึงมีสถาบันสอนวิชาเฉพาะทาง เช่น ด้านศิลปะ ภาพยนตร์ การแสดง การเต้น ดนตรี หลายแห่งที่คนนิยมมาเรียนต่อทั้งในระดับมัธยมและปริญญา
นอกจากนี้กีฬาลอสแอนเจลิส ยังที่มีชื่อเสียงทางด้านกีฬาอย่าง บาสเกตบอล ก็มีที่ชื่อก้องโลก อย่างลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส และ ลอสแอนเจลิส คลิปเปอร์ส หรือกีฬาเบสบอลก็มีทีม ลอสแอนเจลิส ดอดจ์เจอร์ส ส่วนกีฬาฟุตบอลก็มีทีมลอสแอนเจลิส กาแลกซี จะเห็นได้ว่าเมืองแอลเอนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองแห่งการกีฬาเลยก็ว่าได้ จนเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกถึงสองครั้ง ในปี ค.ศ. 1932 และ ค.ศ. 1984 เลยทีเดียว
ประชากรประมาณ 653,115 คน
แซนดีเอโก เป็นเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณชายฝั่งแปซิฟิกตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ติดกับเส้นเขตแดนระหว่างสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโก และห่างจากลอสแอนเจลิสไปทางใต้ประมาณ 190 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ในสหรัฐอเมริกา เป็นอุตสาหกรรมหลักของซานดิเอโกคือ สิ่งทำมือ การทหาร และการท่องเที่ยว
เพราะซานดิเอโกมีความโดดเด่นหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบสแปนิชมิชชั่น ชีวิตริมทะเลอันสนุกสนาน หรือชายหาดที่เหมาะกับการโต้คลื่น รวมถึงแสงแดดที่เจิดจ้าทำให้ซานดิเอโกมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี นอกจากจะเป็นฐานทัพทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาทางชายฝั่งตะวันตกแล้ว เมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมกว่า 50 แห่งโดยส่วนมากเป็นผลงานจากธรรมชาติ อย่างบริเวณริมมหาสมุทร ชายหาดมิชชั่น และ ชายหาดแปซิฟิก อีกทั้งกิจกรรมสำหรับครอบครัวมากมาย อย่างเช่น SeaWorld หรือทัวร์รถไฟจิ๋วระยะทางกว่า 805 เมตร ในสวนสาธารณะ Balboa ที่สามารถขึ้นรถไฟจิ๋วทัวร์เป็นระยะทางกว่า 805 เมตร และสวนสัตว์ซานดิเอโก
ประชากรประมาณ 1.4 ล้านคน
ฟลอริดาเป็นรัฐที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ สหรัฐอเมริกา ทิศตะวันตกติดต่อกับอ่าวเม็กซิโก ทิศเหนือติดต่อกับรัฐอะลาบามา และรัฐจอร์เจีย ทิศตะวันออกติดต่อกับมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศใต้ติดต่อกับช่องแคบฟลอริดา รัฐฟลอริดาเป็นรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 22 มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 และหนาแน่นมากเป็นอันดับ 8 ในสหรัฐอเมริกา แจ็กสันวิลล์เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐฟลอริดา และมีพื้นที่มากที่สุดในสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหญ่ มีเขตเมืองไมแอมี (Miami metropolitan area) เป็นเขตเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ในสหรัฐอเมริกา และมีแทลลาแฮสซีเป็นเมืองหลวงของรัฐ
รัฐฟลอริดาเป็นที่รู้จักกันในนาม ซันไชน์สเตต (Sunshine State) คำว่า “ฟลอริดา” เป็นภาษาสเปนซึ่งหมายถึง “ที่ซึ่งอุดมไปด้วยดอกไม้” นอกจากนี้ฟลอริดา ยังเป็นที่ตั้งของเมืองออร์แลนโด ตั้งอยู่ตอนกลางของรัฐ ที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองแห่งโลกจินตนาการของเด็กๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ เช่น วอล์ตดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต, ซีเวิลด์, และยูนิเวอร์แซลออร์แลนโดรีสอร์ต ที่ใช้เวลาเที่ยวกันเป็นอาทิตย์ก็ยังไม่หมด
ประชากรประมาณ 21.48 ล้านคน
ซีแอตเทิลเป็นเมืองท่าชายฝั่งในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแปซิกฟิคตะวันตกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลสาบวอชิงตัน อยู่ห่างจากแคนาดาเพียง 154 กิโลเมตรเท่านั้น ซีแอตเทิลได้ฉายาว่าเป็น ‘เมืองมรกต’ เพราะต้นไม้จะแตกยอดเขียวครึ้มไปทั่วเมืองมีเพราะมีฝนตกตลอดทั้งปี เป็นเมืองที่เป็นจุดกำเนิดของ Starbucks (สตาร์บัค) ตำนานกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก โดยร้านกาแฟเงือกน้อยสาขาแรกก็ตั้งอยู่ที่นี่นั่นเอง
ซีแอตเทิลนับว่าเป็นเมืองของ Microsoft เลยทีเดียว ซึ่งเป็นฐานการผลิตและวิจัยด้านเทคโนโลยี จึงได้รับการกล่าวขานว่าเมืองนี้เป็นบ้านหลังใหญ่ของแบรนด์ดังระดับโลกทางด้านเทคโนโลยีอื่นๆ อีกด้วย อย่างเช่น Amazon, Getty Images, Costco และ Nintendo นอกจากนี้แล้ว ซีแอตเทิงนี้ยังเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องบินพานิชย์ ของบริษัทโบอิ่ง ที่ใหญ่ที่สุดของอีกด้วย เมืองแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทะเล และทรัพยากรทำให้เรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องง่ายๆ ที่นี่ทุกคนสามารถหาอาหารซีฟู้ดได้ตามมุมถนน
นอกจากนี้ก็มีอาหารเอเชี่ยนชิคๆ คูลๆ ก็มีให้เลือกเต็มเมืองอีกด้วยซีแอตเทิลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง Pike Place Market เป็นตลาดท้องถิ่นที่ถือได้ว่า เป็น ‘วิญญาณของซีแอตเทิล’ ก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าเคยไปมาแล้ว ก็ยังสามารถไปได้อีกเรื่อย ๆ เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ ให้ค้นพบทุกครั้งที่ Pike Place Market และยังมีแลนด์มาร์คประจำเมืองอย่าง “Seattle Space Needle” หอคอยที่มีความสูงกว่า 184 เมตร มีรูปร่างเหมือนจานบินตั้งเด่นอยู่ใจกลางเมือง
ประชากรประมาณ 744,955 คน
ชิคาโก ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ (Illinois) เป็นที่รู้จักกันในนาม “เมืองแห่งลม” เป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งหนึ่งของโลก และในปัจจุบันนับเป็น 1 ใน 10 เมืองสำคัญของโลกทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นเมืองที่ดีที่สุดเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกาเลย เพราะมีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมต่างๆ ทั้งตึกเก่าใหม่ร่วมสมัย อย่าง John Hancock และ Willis Tower ที่มีภาพยนตร์ดังๆ และรายการทีวีมากมายมาถ่ายทำที่นี่ อย่าง ER, Batman Begins, The Dark Knight และ Public Enemies และยังมีนักกีฬาดังๆ อย่าง Michael Jordan นักบาสชื่อดัง อีกทั้งยังมีสถานที่ที่เกี่ยวกับกีฬาอย่าง sports stadiums อีกด้วย
ชิคาโกยังเป็นเมืองที่สมดุลทั้งวัฒนธรรม สภาพอากาศ และธรรมชาติ อย่าง Lake Michigan และ North Ave beaches ที่ผู้คนสามารถเดินทางเท้าจากตัวเมืองมาพักผ่อนกับความอบอุ่นสวยงามของแสงแดด พร้อมรับความเย็นสบายจากสายลม และคลายเครียดกับผืนทรายที่ละเอียดอ่อน อีกทั้งยังมีกิจกรรมมากมายให้ผู้คนได้เลือกทำทั้งปั่นจักรยานรอบชายหาด ว่ายน้ำ พายเรือ เล่นกีฬาชายหาด เและอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเมืองคุณภาพที่มีทุกอย่างที่เหมาะกับทุกความต้องการจริงๆ
ประชากรประมาณ 2.7 ล้านคน
เพนซิลเวเนีย Commonwealth of Pennsylvania เป็นรัฐที่อยู่ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา รัฐเพนซิลเวเนียเป็นรัฐหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกามากที่สุดรัฐหนึ่ง เป็นที่ประกาศอิสรภาพของอเมริกา และครั้งหนึ่ง เมืองฟิลาเดลเฟียยังเคยเป็นเมืองหลวงชั่วคราวของสหรัฐอเมริกาก่อนการจัดตั้งวอชิงตัน ดีซี อีกด้วย
เมืองหลวงของรัฐนี้คือ แฮร์ริสเบิร์ก และเมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ฟิลาเดลเฟีย และพิตส์เบิร์ก รวมไปถึงเมืองเฮอร์ชีย์ที่ตั้งของโรงงานชอคโกแลตเฮอร์ชีย์ อีกทั้งมหาวิทยาลัยที่สำคัญในรัฐนี้ได้แก่ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก และ มหาวิทยาลัยลีไฮฮ์ ทีมกีฬาอเมริกันฟุตบอลที่มีชื่อเสียงได้แก่ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ และ พิตส์เบิร์ก สตีลเลอรส์
เป็นเมืองที่เป็นต้นกำเนิดนาวิกโยธินของสหรัฐอเมริกา (United States Marine Corps) และเป็นเมืองต้นกำเนิดของสิ่งสำคัญหลายอย่างของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดแห่งแรกในปี 1731, โรงพยาบาลแห่งแรกในปี 1751, มหาวิทยาลัยแพทย์แห่งแรกในปี 1765 เป็นต้น และที่สำคัญฟิลาเดลเฟียถือว่าเป็นเมืองมรดกโลกแห่งเดียวเท่านั้นของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ประชากรประมาณ 12.8 ล้านคน
พอร์ตแลนด์ เมืองอินดี้ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐออริกอน เป็นเมืองขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ร่มรื่นสบายที่สุดในสหรัฐอเมริกาเมืองหนึ่ง มีความ art และความเท่ตามท้องถนนทั่วไป เพราะในเมืองนี้จะมีรถขายของที่เรียกว่า Street cart อยู่ตามริมถนนเยอะมาก และแต่ละร้านตกแต่งสวยงามเก๋ไก๋อาหารก็หลากหลาย เรียกได้ว่าแทบจะครบทุกชาติจะกินแบบไหนเลือกได้ตามใจชอบ ราคาก็น่ารัก เพราะไม่เก็บภาษีการขาย ในขณะที่รัฐอื่นจะเก็บภาษีอยู่ประมาณ 7-8 % ทำให้เมืองนี้มีค่าครองชีพต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ชายฝั่งตะวันตกเลยทีเดียว
Portland เป็นเมืองที่ปลอดภัย สะอาด ผู้คนเป็นมิตร และเป็นกันเอง การคมนาคมสะดวก มีระบบรถประจำทาง และรถไฟในเมืองที่ดีมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เหมาะสำหรับการขี่จักรยานมาก
มีนักท่องเที่ยวกล่าวว่า พอร์ตแลนด์เป็น “เมืองหลวงเบียร์ของโลก” เนื่องจากมีการทำเบียร์หลากหลายชนิด และยี่ห้อในตัวเมืองมากกว่าที่อื่น และมีการจัดเทศกาลเบียร์ในเมืองหลายนับสิบๆ งานต่อปีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ พอร์ตแลนด์ตั้งอยู่ใน Oregon ซึ่งเป็นรัฐที่มีความสวยงามตามธรรมชาติและการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น มีทั้งป่าดิบชื้นและทะเลทรายร้อนผ่าว ชายทะเลและยอดเขาที่มีหิมะปกคลุม ดังนั้นที่นี้มีอะไรให้ค้นหา และท่องเที่ยวมากมายจริงๆ
ประชากรประมาณ 653,115 คน
เป็นศูนย์วิจัยระดับโลก, เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและเทคนิคทางวิทยาศาสตร์, มีหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกหลักสูตร
เมืองที่ห้ามพลาดเลยเช่น รัฐวอชิงตัน ดี.ซี.(Washington, D.C.), รัฐนิวยอร์ก (New York), รัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts), รัฐฟลอริดา (Florida), รัฐแอริโซนา (Arizona), รัฐแคลิฟอร์เนีย (California)
มหาวิทยาลัยที่อเมริกาเรียนปริญญาตรี 4 ปี
แต่ละรัฐมีระบบการเรียนการสอนที่คล้ายกัน แต่ระบบการเปิดปิดเทอมจะแตกต่างกัน(จะขึ้นอยู่ในแต่ละรัฐ) หลักๆก็จะมี ระบบเปิดเทอมแบบ Semester, แบบ Quarter, แบบ Trimester และแบบ 4-1-4
ประเทศอเมริกาใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการจะเป็นสำเนียงอเมริกัน
ค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลกลางคือ $ 7.25 ต่อชั่วโมง กำหนดโดย Fair Labor Standards Act (FLSA) โดยจะได้มากกว่า หรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับประเภทงานที่ทำ และกฏหมายค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละรัฐที่กำหนด
เป็นศูนย์แนะแนวการเรียนต่อต่างประเทศระดับมาตรฐานสากลได้รับการรับรองหน่วยงานทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศมากมาย อีกทั้งยังเป็นสมาชิก Tieca รวมถึงผ่านการอบรมโดยสถานทูตต่างๆ มากมาย