ชั้นเรียน Year 1 – Year 2 อายุ 5 – 7 ปี
ระดับอนุบาล Infant School
การเรียนต่อมัธยมอังกฤษ แบ่งระบบการศึกษาออกเป็น 4 ระดับ คือ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา การศึกษาภาคบังคับอยู่ระหว่างช่วงอายุ 5-16 ปี โดยโรงเรียนในประเทศอังกฤษที่สามารถรับนักเรียนต่างชาติได้นั้น จะเป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีหอพักสำหรับนักเรียน โดยมีกฎระเบียบ และมีความปลอดภัยสูงมาก เพราะมีระบบ Guardian คอยดูแลนักเรียน รวมถึงมีกิจกรรมเสริมการเรียนหลังเลิกเรียนสำหรับนักเรียน เช่นกีฬา ดนตรี และชมรมต่างๆ อย่างมากมาย
วิชาเรียนมัธยมในระบบ Cambridge
การเข้ามหาวิทยาลัย
สถานศึกษาทุกระดับในสหราชอาณาจักร จะเปิดภาคการศึกษาเริ่มต้นประมาณปลายเดือนกันยายน หรือต้นเดือนตุลาคม และสิ้นสุดประมาณปลายเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคมของปีถัดไป แบ่งออกเป็น 3 เทอม ได้แก่
- เทอม 1 (Autumn Term) ปลาย ก.ย. – กลาง ธ.ค.
- เทอม 2 (Spring Term) กลาง ม.ค. – ปลาย มี.ค.
- เทอม 3 (Summer Term) ปลาย เม.ย. – ต้น ก.ค.
ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษได้ชื่อว่ามีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้านคุณภาพ และมาตรฐานมานานกว่า 100 ปีโดยแบ่งดังนี้
ระดับชั้นเรียน
Nursary School
การศึกษาระดับอนุบาล
Year 1-2 (อายุ 4-7 ปี)
Primary School
ระดับปฐมศึกษา โรงเรียนส่วนใหญ่เปิดรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และสิ้นสุดเมื่อนักเรียนอายุครบ 11 ปี การเรียนการสอนเน้นเนื้อหาวิชาหลักที่จำเป็น พร้อมกับเน้นการพัฒนาทักษะด้านการเขียนและตัวเลข
Secondary School
ระดับมัธยมศึกษาเปิดรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 11-16 ปี เรียนวิชาพื้นฐานจนถึงอายุ 14 ปี เมื่ออายุครบ 14 ปี นักเรียนจะได้เรียนในวิชาหลัก และวิชาเลือกรวม 8-12 วิชา และต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 5 วิชา เพื่อรับวุฒิ GCSE เมื่ออายุครบ 16 ปีนักเรียนสามารถเลือกศึกษาต่อในระดับ Further Education ต่ออีก 2 ปี เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย หรือศึกษาต่อในระดับอาชีวศึกษาก็ได้
Further Education
นักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา Forther Education หรือเรียกว่า Sixth Form โดยจะเรียนต่อในระบบจนอายุ 18 ปี ส่วนมากเลือกเรียนหลักสูตร A-levels 2 ปี (ในสก็อตแลนด์คือระดับ National Qualifications at Higher/Advanced Higher Level) หรือเลือกเรียนต่อในหลักสูตร International Baccalaureate (IB) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล อีกทางเลือกหนึ่งคือ หลักสูตรวิชาชีพ Btec
Higher Education
การศึกษาในระดับปริญญาตรีส่วนใหญ่เป็นหลักสูตร 3 ปี ยกเว้นบางสาขาวิชา ปริญญาโทใช้เวลาเรียนประมาณ 1-2 ปี และปริญญาเอกใช้เวลาเรียนรวม 3-4 ปี
การเรียนระดับมัธยมของอังกฤษ
Secondary Education
สำหรับนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป ได้จนถึงอายุ 18 – 19 ปี รวมระยะเวลาศึกษาทั้งหมด 5 ปี ซึ่งเราจะเรียกว่า year 9 – year 13 สำหรับนักเรียนชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์เรียนต่อที่ (Independent School) โรงเรียนมัธยมของเอกชนเท่านั้น ซึ่งนักเรียนทุกคนจะต้องทำการสอบวัดผลความรู้ และความสามารถเพื่อนำไปใช้ในการยื่นสมัครเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาต่อไป โดยจะสอบประมาณเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี การสอบจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ GCSE(General Certificate of Secondary Education) และ A-Level(Advanced Level)
ระบบโรงเรียนประจำในอังกฤษนั้น นักเรียนที่มีอายุน้อยจะต้องอยู่ในกฏเกณฑ์ที่เข้มงวด และจะถูกฝึกฝนให้มีความรับผิดชอบในการทำประโยชน์ให้กับหอพัก ส่วนนักเรียนที่มีอายุมากกว่าจะได้รับการฝึกฝนให้มีภาวะผู้นำ รวมถึงจะมีความเป็นอิสระมากว่าเด็กเล็ก และมีการแบ่งชั้นเรียนเป็น 4 ระดับใหญ่ๆ เรียกว่า Key Stages ระดับชั้นเรียนในแต่ละปีของ Key Stage จะเรียกว่า Year
Key Stage ระดับชั้นการเรียนรู้
ชั้นเรียน Year 3 – Year 6 อายุ 7 – 11 ปี
เป็นระดับปฐมศึกษา โดยจะเน้นให้นักเรียนมีความสุข มีความรู้ขั้นพื้นที่หลากหลาย
ชั้นเรียน Year 7-9 อายุ 11-14 ปี
บางโรงเรียนอาจจะเรียกว่า Middle School หรือง่ายๆ คือมัธยมต้นนั่นเอง
ชั้นเรียน Year 10-11 อายุ 14 -16 ปี
เป็นระดับชั้นมัธยมปลาย และมีการสอบประเมิณผลทั่วประเทศ ที่เรียกว่า GCSE
ชั้นเรียน Year 12-13 อายุ 17 -18 ปี
ระดับนี้เป็น Pre University level โดยจะมีการเรียนวิชาหลักๆ 3-4 วิชาเท่านั้นใน 2 ปี
ความคิดเห็นจากนักเรียน
Student Testimonial
Myddelton College
Im Education พาชมชีวิตเด็กหอโรงเรียนมัธยม Myddelton College ในเมือง Denbigh ประเทศ Wales (ส่วนหนึ่งของ UK) ต้นแบบของโรงเรียนเวทมนต์ฮอกวอตส์ ในเรื่อง Harry Potter ฟังประสบการณ์เด็กหอ ชมห้องเรียน อาหารการกิน กิจกรรม นศท. ในแบบอังกฤษแท้ๆ
GCSE
General Certificate of Secondary Education
เป็นการสอบที่นักเรียนจะต้องเรียนตอน Year 10-11 ซึ่งเทียบได้กับ มัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4 ของไทย การเรียน GCSE จะเริ่มตั้งแต่อายุ 14 และจะเรียนไปจนถึงอายุ 16 โดยนักเรียนสามารถเลือกเรียนในวิชาที่สนใจได้เอง แต่จะต้องเรียนวิชาบังคับสามวิชา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (จะเรียนเคมี ชีวะ ฟิสิกส์ รวมกัน หรือจะเรียนแยกเป็นรายวิชาก็ได้เช่นกัน) และมีวิชาอื่นๆ ที่เป็นวิชาเลือก อย่างเช่น การออกแบบและเทคโนโลยี การสื่อสารและเทคโนโลยี สารสนเทศ ศิลปะ การออกแบบ เทคโนโลยี่ ดนตรี กีฬา ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ บริหารธุรกิจ และภาษาต่างประเทศ ฯลฯ
ส่วนใหญ่นักเรียนจะเลือกเรียน และสอบ GCSE ประมาณ 5 ถึง 8 วิชา และต้องได้เกรด C ขึ้นไปจึงจะถือว่าผ่านการสอบ GCSE เพื่อใช้ผลการสอบในการสมัครเรียนต่อในระดับ Further Education ต่อไป
ทั้งนี้หากนักเรียนจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย (ปริญญา) จะต้องศึกษาต่ออีกประมาณ 2 ปี ในระดับ A Level (Advanced Level) หรือเลือกศึกษาต่อในหลักสูตร International Baccalaureate (IB) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือ หลักสูตรวิชาชีพ Btec และ Foundation เพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้อีกด้วย
Care Subjects
ต้องเรียนวิชาบังคับสามวิชา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (จะเรียนเคมี ชีวะ ฟิสิกส์ รวมกัน หรือจะเรียนแยกเป็นรายวิชาก็ได้เช่นกัน)
Optional Subjects
มีวิชาเลือก อย่างเช่น การออกแบบ การสื่อสารและเทคโนโลยี ศิลปะ ออกแบบ ดนตรี กีฬา ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ บริหารธุรกิจ และภาษาต่างประเทศ
Personal Base
เป็นการศึกษาเฉพาะทาง ผู้เรียนสามารถเลือกรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่ตนเองต้องการจะศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
GCSE Subjects
รายวิชาบังคับ Compulsory Subject และวิชาเลือก Optional Subject
GCSE Options
Compulsory Subject
- English
- English Literacy
- Mathematics
- Science
Optional Subject
Select 4 Subjects
- Art & Design: Fine Arts
- Business
- Combined Science
- Computer Science
- CPE (Certificate of Personal Effectiveness)
- Drama
- Design Technology
- First Certificate in English (for non-native English speakers
- Geography
- Graphical Communication
- History
- Modern Foreign Languages
- Music
- Performing Arts: BTEC Level 2
- Physical Education
- Religious Studies
- Spanish
- Sports Science (CNA)
- Triple Science
A-Level
Cambridge International Advanced Level
เป็นการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทางวิชาการ มีให้เลือกกว่า 50 วิชา ส่วนใหญ่นักศึกษาในระดับ A Level จะลงเรียนเพียง 3-5 วิชา เป็นหลักสูตรที่ใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปี เพื่อที่จะได้ศึกษาแต่ละวิชาอย่างลึกซึ้ง วิชาที่นักศึกษาเลือกเรียนมักจะเกี่ยวข้องกับหลักสูตรหรือสาขาที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ผลการสอบ A Level มี 5 ระดับ คือ A, B, C, D, E แต่ระดับที่ได้ทั้ง 5 ถือว่าสอบผ่านทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นักเรียนต้องมีผลการเรียนในระดับ C อย่างน้อย 3 วิชา เพื่อยื่นให้มหาวิทยาลัยพิจารณา โดยมหาวิทยาลัยบางแห่งอาจรับเฉพาะผู้ที่ได้คะแนนระดับ A และ B เท่านั้น
ในปีแรกของ A level นั้นจะเรียกว่า AS level หรือ Advanced Subsidiary Level ซึ่งนักเรียนสามารถสอบเพื่อขอวุฒิ AS เพื่อนำวุฒินี้ไปสมัครเรียนต่อในระดับวิชาชีพ หรือมหาวิทยาลัยเอกชนบางแห่งได้ และเมื่อเรียนจบในปีที่ 2 นักเรียนจะต้องสอบ A level เพื่อนำคะแนนไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยต่อไปทั้งในประเทศอังกฤษ และต่างประเทศได้ โดยประเทศที่รองรับหลักสูตร AS และ A-Level ได้แก่ United Kingdom, Nepal, Pakistan, Brunei, Malaysia, Mauritius, Singapore, Sri Lanka, India, Hong Kong และอื่นๆ อีกมากมาย
เกณฑ์การให้เกรดของ A-Level
ผลการสอบ A Level มี 5 ระดับ คือ
เกรด A* ต้องมีคะแนน 90% ขึ้นไป
เกรด A ต้องมีคะแนน 80-89%
เกรด B ต้องมีคะแนน 70-70%
เกรด C ต้องมีคะแนน 60-69%
เกรด D ต้องมีคะแนน 50-59%
เกรด E ต้องมีคะแนน 40-49%
A Level Subjects
วิชาเรียนในระดับ Year 12-13
โดยปกตินักเรียนระดับชั้น Sixth Form เลือกเรียนเพียง 3-4 วิชา และเรียนอย่างเข้มข้นในระยะเวลา 2 ปี
Sixth form
Computer Science
ชีววิทยา
Sixth form
Biology
ชีววิทยา
Sixth form
Business Studies
บริหารธุรกิจ
Sixth form
Chemistry
เคมี
Sixth form
Chinese
ภาษาจีน
Sixth form
Computer Science
คอมพิวเตอร์
Sixth form
Drama
การแสดง
Sixth form
Economics
เศรษฐศาสตร์
Sixth form
English Literature
ภาษาอังกฤษ
Sixth form
Fine Art
ศิลปะ
Sixth form
French/Spanish
ภาษาฝรั่งเศสและภาษาสเปน
Sixth form
Fuether Mathematices
คณิตศาสตร์เชิงลึก
Sixth form
German
ภาษาเยอรมัน
Sixth form
Geography
ภูมิศาสตร์
Sixth form
History
ประวัติศาสตร์
Sixth form
Mathematics
คณิตศาสตร์
Sixth form
Music
ดนตรี
Sixth form
Photography
ถ่ายภาพ
Sixth form
Religious Studies
ศาสนาศาสตร์
Sixth form
Psychology
จิตวิทยา
Sixth form
Textiles
สิ่งทอ
IB
The International Baccalaureate
IB Diploma เป็นประกาศนียบัติทางด้านวิชาการระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอายุระหว่าง 16 ถึง 19 ปี ให้มีความพร้อมในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในทุกประเทศ หลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรเข้มข้นโดยใช้เวลาเรียน 2 ปี หลักสูตรของ International Baccalaureate จะประกอบไปด้วย 6 วิชาหลักๆ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาที่สอง วิทยาศาสตร์เชิงการทดลอง ศิลปะ เลข และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน กิจกรรมกีฬา และงานสร้างสรรค์ทางศิลปะอีกด้วย
IB ต่างจากระบบอื่นอย่างไร
- กระตุ้นให้นักเรียนในทุกช่วงวัยคิดเชิงวิพากษ์
- ประยุกต์ใช้ข้อมูลวิจัยและโรงเรียนในเครือข่ายทั่วโลก
- สนับสนุนให้นักเรียนในทุกช่วงวัยศึกษาบริบททางสังคมทั้งในชุมชนและของโลก
- พัฒนาให้นักเรียนพูดได้หลายภาษา
The elements
แก่นแท้ของหลักสูตร IB
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 องค์ประกอบใหญ่ๆ ได้แก่
การเขียนเรียงความอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยจะมีการสอนเขียนเรียงความมากถึง 4,000 คำต่อหนึ่งเรื่องในหัวข้อที่นักเรียนสนใจ
เน้นเรื่องความคิดสร้างสรรค์
การประยุกต์ใช้ปรัชญาความเข้าใจ และธรรมชาติการเรียนรู้ของนักเรียน โดยที่มุ่งเน้นการสอนตามทักษะที่เหมาะสมของนักเรียนแต่ละคน
การเขียนเรียงความอย่างมีประสิทธิภาพ
การลงมือทำ และการให้บริการ โดยนักเรียนจะต้องร่วมมือกับกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น ศิลปะ กีฬา และอาสาพัฒนาชุมชน
หลักการเรียนรู้ทั้ง 3 ส่วน เป็นภาคบังคับของหลักสูตร และเป็นหลักปรัชญาของหลักสูตร IB เพื่อสร้างนักเรียนที่มีความรู้ ทักษะการใช้ภาษา บุคลิกภาพที่ดี รวมถึงให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นในสังคมอีกด้วย
การประเมินผล IB
- เกรดรวมจะเป็นเกรดของทุกวิชาที่ได้เรียน ไม่ใช่วิชาใดวิชาหนึ่ง
- นักเรียนจะได้รับเกรดตั้งแต่ 1-7 สำหรับ 6 กลุ่มวิชา
- นอกจากนี้ยังมีคะแนนพิเศษที่จะมีให้ระหว่างการเรียนอีก 3 แต้ม ทำให้เกรดรวมทั้งหมดจะเต็ม 45 แต้ม
- คะแนนขั้นต่ำที่ถือว่าผ่านเกณฑ์คือ 24 แต้ม
การประเมินผล IB
- เกรดรวมจะเป็นเกรดของทุกวิชาที่ได้เรียน ไม่ใช่วิชาใดวิชาหนึ่ง
- นักเรียนจะได้รับเกรดตั้งแต่ 1-7 สำหรับ 6 กลุ่มวิชา
- นอกจากนี้ยังมีคะแนนพิเศษที่จะมีให้ระหว่างการเรียนอีก 3 แต้ม ทำให้เกรดรวมทั้งหมดจะเต็ม 45 แต้ม
- คะแนนขั้นต่ำที่ถือว่าผ่านเกณฑ์คือ 24 แต้ม
Adcote School of Girls
โรงเรียนมัธยมขนาดกะทัดรัด ตั้งห่างจากตัวเมือง Shrewsbury ออกมาครึ่งชั่วโมง มีนักเรียน 200+ คน จำนวนไม่เยอะ แต่เน้นคุณภาพการดูแลอย่างใกล้ชิด คลาสเรียนแต่ละวิชามีนักเรียนจำนวนน้อย นักเรียนกับครูจึงสนิทสนมกันมาก
UK Summer Course
ชีวิตวัยรุ่นจะสนุกแค่ไหน ถ้าได้ไป Summer Course แน่นอนว่าสนุกมาก…..ได้เรียนภาษาอังกฤษกับต้นฉบับ ได้ใช้ภาษาในสถานการณ์จริง พักกับครอบครัวโฮมสเตย์ชาวอังกฤษ ได้เดินทางเรียนรู้โลกกว้างด้วยตัวเองอย่างปลอดภัย มีพี่เจ้าหน้าที่ของ Im Education คอยดูแลอย่างใกล้ชิด 🙂
Bellerbys College
ใครๆ ก็เข้า Top Uni ได้!! How to เข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังประเทศอังกฤษ? เตรียมความพร้อมได้ไม่ยาก กับหลักสูตร University Foundation @Bellerbys College, Brighton เรียนแค่ปีเดียวรู้เรื่อง! น้องอันน์ นร.เกรดดีการันตีคุณภาพ
University Entrance
สำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา หลักสูตรปริญญาตรี Undergraduate ในประเทศอังกฤษส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการเรียนเพียง 3 ปี ยกเว้นบางสาขาเช่น วิศวกรรมศาสตร์, สถาปัตยกรรมศาสตร์, แพทยศาสตร์, ทันแพทยศาสตร์ ซึ่งใช้เวลาเรียนเหมือนประเทศไทยโดยจะต้องใช้คะแนนเกรด 3 วิชาในระดับชั้น A-level ในการยื่นสมัครเรียน
สำหรับนักเรียนที่จบชั้น ม.5 และ ม.6 จากโรงเรียนในประเทศไทยและต้องการเรียนต่อปริญญาตรีในประเทศอังกฤษ สามารถ Foundation Course ซึ่งจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านภาษาอังกฤษ และวิชาการและทำการสอบ โดยนำคะแนนที่ได้ไปยื่นเข้าสมัครศึกษาต่อมหาวิทยาลัยต่อไป
More About University
FAQ
คำถามยอดฮิต
วีซ่าอังกฤษไปเที่ยวได้กี่ประเทศ
วีซ่าอังกฤษสามารถเดินทางเข้าประเทศที่อยู่ในสหราชอาณาจักรได้ 4 ประเทศคือ อังกฤษ สกอตแลนด์ แวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ
อยากเรียนภาษาอังกฤษช่วงปิดเทอมสั้นๆ ได้มั้ย
สามารถเรียนภาษาอังกฤษช่วงสั้นๆ ได้ โดยขั้นต่ำจะอยู่ที่ 2 สัปดาห์ ไปจนถึง 44 สัปดาห์ ซึ่งหลักสูตร General English และ Intensive English จะเปิดตลอดทั้งปี
เรียนมัธยมที่อังกฤษค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
ค่าเทอมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ £35,000 ต่อปีขึ้นไป
เรียนมหาลัยที่อังกฤษใช้เวลากี่ปี
เรียนปริญญาตรี 3 ปี และเรียนปริญญาโท ใช้เวลาเพียง 1 ปี
จบปริญญาที่อังกฤษสามารถอยู่ทำงานต่อได้หรือไม่
สามารถขอ visa เพื่อทำงานได้อีก 2 ปี