8 เมืองในอังกฤษ ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้เมืองใหญ่!
พูดถึงอังกฤษ หลายคนคงนึกถึงเมืองใหญ่ที่โด่งดังอย่าง London เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความทันสมัย หรือเมืองฮิตอย่าง Manchester, Oxford และ Liverpool ที่มีชื่อเสียงทั้งเรื่องเรียนและวัฒนธรรม แต่จริงๆ แล้ว อังกฤษยังมีอีกหลายเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ วิวสวย และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น Brighton (ไบรตัน), Bournemouth (บอร์นมัธ), Torquay (ทอร์คีย์) ที่ขึ้นชื่อเรื่องชายทะเลสวยงาม หรือเมืองที่มีประวัติศาสตร์โดดเด่นอย่าง Canterbury (แคนเทอร์เบอรี) และ Bath (บาธ) วันนี้พี่ ๆ Im Education อยากจะมา แนะนำเมืองในอังกฤษ ให้รู้จักกัน
ใครที่เบื่อความวุ่นวายของเมืองใหญ่ หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศ เมืองพวกนี้คือคำตอบเลย บางเมืองมีชายหาดสวย ๆ บางเมืองก็มีตึกเก่าและประวัติศาสตร์น่าสนใจ แถมคนท้องถิ่นก็น่ารัก ใช้ชีวิตเรียบง่าย เป็นกันเองสุด ๆ ยิ่งถ้าได้มีโอกาสไปอยู่หรือใช้เวลาในเมืองแบบนี้ ก็จะได้สัมผัสอังกฤษในอีกมุมที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง
ในบทความนี้ พี่ ๆ Im Education จะพาไป แนะนำเมืองในอังกฤษ 8 เมือง ที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อ แต่บอกเลยว่าแต่ละที่มีทั้งวิวสวย สงบ อบอุ่น และมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าหลงใหล จะมาคนเดียว มาเรียน มาทำงาน หรือแค่มาเที่ยว ก็ต้องตกหลุมรักแน่นอน
เรียนต่ออังกฤษ ดียังไง?
เรียนมัธยมที่อังกฤษ
เรียนต่อมัธยมอังกฤษ แบ่งระบบการศึกษาออกเป็น 4 ระดับหลัก ได้แก่ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยการศึกษาภาคบังคับจะอยู่ในช่วงอายุ 5-16 ปี สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการมาเรียนต่อในระดับมัธยม โรงเรียนที่รับส่วนใหญ่มักเป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีหอพักในตัว ซึ่งมีระบบความปลอดภัยสูงและมีกฎระเบียบเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีระบบ Guardian คอยดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ผู้ปกครองสบายใจเรื่องความปลอดภัยและการใช้ชีวิตประจำวันของบุตรหลานในต่างแดน โรงเรียนเหล่านี้ยังจัดกิจกรรมเสริมการเรียนมากมายหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ดนตรี หรือชมรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะและสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ ทำให้การเรียนต่อมัธยมที่อังกฤษไม่ใช่แค่การเรียนในห้องเรียน แต่เป็นโอกาสที่ดีในการเติบโตทั้งด้านการศึกษาและประสบการณ์ชีวิตอย่างครบถ้วน
เรียนปริญญาที่อังกฤษ
อังกฤษเป็นประเทศที่มีมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก ระบบการศึกษาที่นั่นจึงเป็นต้นแบบให้หลายประเทศทั่วโลก การเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษก็เลยได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในหมู่นักเรียนไทย ด้วยคุณภาพการศึกษาที่ได้รับการยอมรับ และใช้เวลาเรียนแค่ 3 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ หลังเรียนจบยังสามารถขอวีซ่าเพื่ออยู่ทำงานต่อได้อีก 2 ปี ทำให้หลายคนตัดสินใจไปเรียนต่อที่อังกฤษ เพราะทั้งได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ และโอกาสในการทำงานอีกด้วย
เรียนภาษาที่อังกฤษ
เรียนภาษาที่อังกฤษ ถือเป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดของภาษาอังกฤษแท้ๆ ไม่เพียงแค่ได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษในสำเนียงบริทิชที่มีเสน่ห์ แต่ยังเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่ามีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลกหลายแห่งตั้งอยู่ที่นี่ พร้อมทั้งมีคอร์สภาษาให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น General English, Business Skills English, Communication Skills English หรือแม้แต่การเตรียมสอบ IELTS และภาษาอังกฤษเฉพาะทาง เช่น English for Medical ที่เปิดสอนในหลายสถาบัน
นอกจากนี้ อังกฤษยังมีเมืองที่หลากหลายให้นักเรียนเลือกเรียน ทั้งเมืองใหญ่ที่คึกคัก เมืองเล็กที่สงบ หรือแม้แต่เมืองชายทะเล ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างเต็มที่ จึงทำให้การเรียนภาษาอังกฤษที่นี่ไม่ใช่แค่การเรียนรู้ภาษา แต่เป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตที่ครบถ้วนและน่าจดจำ
1. Brighton (ไบรตัน)
ไบรตันเป็นเมืองชายทะเลสุดชิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวและนักเรียนต่างชาติ ด้วยบรรยากาศแนวฮิปปี้ที่ผสมผสานกับความทันสมัย เมืองนี้มีชายหาดกรวดที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อน ชมวิวทะเลอย่างสบายใจ ในช่วงฤดูร้อน ไบรตันจะคึกคักไปด้วยงานเทศกาลและกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายรูปแบบ ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาร่วมสนุกและสร้างความทรงจำดีๆ
ถนนคนเดินของไบรตันเต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่น คาเฟ่เก๋ๆ และแกลเลอรีศิลปะที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของเมืองนี้ ที่นี่จะได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย และโอกาสในการพบปะผู้คนใหม่ๆ รวมถึงได้ลองชิมอาหารอร่อยๆ จากร้านท้องถิ่นและสไตล์อินเตอร์ ไบรตันจึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศผ่อนคลายแต่ยังคงเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
2. Swansea (สวอนซี)
เมืองท่าที่ตั้งอยู่ในเวลส์ มีเสน่ห์พิเศษจากการผสมผสานระหว่างธรรมชาติที่สวยงามกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ที่นี่จะได้เจอชายหาดสวย ๆ ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและทำกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ รวมถึงสวนสาธารณะกว้าง ๆ ที่เป็นพื้นที่ดี ๆ สำหรับเดินเล่น พักผ่อน หรือออกกำลังกาย ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบและสดชื่น
นอกจากธรรมชาติแล้ว สวอนซียังมีพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวและวัฒนธรรมของพื้นที่อย่างน่าสนใจ พร้อมกับตลาดสดที่เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่นสดใหม่และบรรยากาศคึกคัก เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เมืองนี้เลยเป็นจุดหมายที่ลงตัวระหว่างความสงบของธรรมชาติกับความน่าตื่นตาตื่นใจทางวัฒนธรรม
3. Edinburgh (เอดินบะระ)
เมืองหลวงของสกอตแลนด์ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ปราสาทเอดินบะระตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินเขา มองเห็นได้ชัดเจนจากทุกมุมเมือง เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ บรรยากาศของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ เช่น อาคารหินเก่าแก่และถนนหินเก่า ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในยุคกลาง
เอดินบะระยังเป็นเจ้าภาพงานเทศกาลระดับโลกอย่าง Edinburgh Festival Fringe ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะและการแสดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวและนักเรียนต่างชาติมักมาที่นี่เพื่อสัมผัสความคึกคักและความสร้างสรรค์ของเมืองในช่วงเทศกาล ที่นี่จึงเป็นเมืองที่ผสมผสานความงามของประวัติศาสตร์กับชีวิตสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
4. Bournemouth (บอร์นมัธ)
บอร์นมัธเป็นเมืองชายทะเลยอดนิยมที่มีชายหาดทรายละเอียดยาวสุดลูกหูลูกตา เหมาะกับคนรักทะเลและกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นบนสะพานไม้ที่ทอดยาวสู่ทะเล หรือการปั่นจักรยานรอบเมืองเพื่อสัมผัสบรรยากาศริมทะเลอย่างเต็มที่ บอร์นมัธจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนและสนุกสนานในทุกฤดูกาล
นอกจากชายหาดที่สวยงามแล้ว เมืองนี้ยังมีสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียวกว้างขวางให้ได้ผ่อนคลาย รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้บอร์นมัธเป็นเมืองที่ผสมผสานความสงบของธรรมชาติและความสะดวกสบายของเมืองได้อย่างลงตัว
5. Bath (บาธ)
บาธเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นเรื่องน้ำพุร้อนธรรมชาติและสถาปัตยกรรมสไตล์โรมันโบราณ ที่นี่เต็มไปด้วยตึกหินสีครีมสวยงามและโบสถ์เก่าแก่ที่ยังคงรักษาความคลาสสิกไว้ได้อย่างดี ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในยุคโบราณอย่างแท้จริง
นอกจากความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว บาธยังมีบรรยากาศสงบและเมืองเล็ก ๆ ที่เหมาะกับการเดินเล่นชิล ๆ สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น และยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และตลาดที่เปิดโอกาสให้ลิ้มลองอาหารและสินค้าพื้นเมืองอย่างใกล้ชิด ด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง บาธจึงเป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ที่ทำให้ใครที่มาเยือนต้องหลงรักและอยากกลับมาอีกครั้งไม่รู้ลืม
6. Canterbury (แคนเทอร์เบอรี)
เมืองเล็กที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอังกฤษแบบแท้ ๆ แคนเทอร์เบอรีโดดเด่นด้วยมหาวิหารแคนเทอร์เบอรีอันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในประเทศ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางศาสนาและสถาปัตยกรรมที่นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด ที่นี่เต็มไปด้วยตรอกซอยเล็ก ๆ ที่ยังคงรักษาเสน่ห์แบบยุคกลางเอาไว้อย่างดี การเดินเล่นในเมืองนี้จึงเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีตอย่างแท้จริง นอกจากความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมแล้ว แคนเทอร์เบอรียังมีร้านกาแฟเล็ก ๆ ร้านอาหารท้องถิ่น และร้านค้าริมถนนที่คอยเติมชีวิตชีวาและความอบอุ่นให้กับบรรยากาศเมืองเก่าแห่งนี้
แคนเทอร์เบอรีจึงเป็นเมืองที่ผสมผสานความสงบและความมีชีวิตชีวาได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และการสัมผัสวิถีชีวิตแบบอังกฤษแท้ ๆ ในบรรยากาศที่เงียบสงบแต่ไม่เงียบเหงา เป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกทั้งผ่อนคลายและได้รับแรงบันดาลใจในเวลาเดียวกัน
7. Tynemouth (ไทน์มัธ)
เมืองเล็ก ๆ ริมแม่น้ำไทน์ที่เงียบสงบและอบอุ่น เหมาะสำหรับคนที่อยากหนีจากความวุ่นวาย แล้วมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแบบเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ที่นี่มีชายหาดทอดยาวให้เดินเล่นรับลมทะเลชิล ๆ จะเดินย่ำทรายคนเดียว ฟังเสียงคลื่นเบา ๆ หรือจะมานั่งชมพระอาทิตย์ตกกับใครสักคนก็โรแมนติกสุด ๆ บรรยากาศทั้งเมืองให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนหลุดออกจากโลกที่รีบเร่ง แล้วได้ใช้เวลากับตัวเองอย่างแท้จริง
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ทะเลสวย ๆ แต่ยังมีโบสถ์เก่าแก่และซากปราสาทริมหน้าผาที่แอบเท่และขลังแบบคลาสสิก วิวจากด้านบนมองเห็นทะเลแบบพาโนรามา ยิ่งทำให้เมืองนี้ดูมีมิติขึ้นมาก ใครที่ชอบทั้งธรรมชาติและประวัติศาสตร์ Tynemouth คือคำตอบ เพราะมันผสมผสานความสงบ ความงาม และความลึกในแบบที่หาได้ยากในเมืองท่องเที่ยวทั่วไป
8. Torquay (ทอร์คีย์)
ทอร์คีย์เป็นเมืองชายทะเลในแคว้นเดวอนที่ได้ฉายาว่า “The English Riviera” เพราะมีบรรยากาศอบอุ่น แสงแดดดี และทิวทัศน์ริมทะเลที่สวยเหมือนอยู่แถบเมดิเตอร์เรเนียน ตัวเมืองมีท่าเรือสวยงาม คาเฟ่ริมทะเล และสวนสาธารณะให้เดินเล่นชิล ๆ เหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ ใครที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะกิจกรรมทางน้ำอย่างล่องเรือ ว่ายน้ำ หรือตกปลา ที่นี่ถือว่าตอบโจทย์สุด ๆ
Torquay เป็นเมืองที่รวมความสงบและความสนุกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะมาแบบครอบครัว เพื่อน หรือมาคนเดียวก็รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายและความเป็นมิตรของเมืองนี้ วิวทะเลสวย ๆ ผสมกับบรรยากาศแบบสบาย ๆ ทำให้หลายคนตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเยือน ถ้าเป็นสายธรรมชาติ รักทะเล และอยากหามุมสงบไว้เติมพลัง ที่นี่คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง
สนใจเรียนต่อต่างประเทศ ให้ Im Education แนะนำง่ายกว่า
Im Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศ ตัวแทนอย่างเป็นทางการจากสถาบันในต่างประเทศ มากกว่า 100 สถาบันทั่วโลก กับประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาและดูแลนักเรียนมากกว่า 17 ปี

Education Consulting
นำเสนอข้อมูลเชิงลึก ความแตกต่างของหลักสูตรการศึกษาแต่ละประเทศ เพื่อเฟ้นหาการเรียนรู้ที่เหมาะสมที่สุด

Exclusive Care
การดูแลแบบครอบครัว ตลอดระยะเวลาของการเรียนจนสำเร็จการศึกษา

Accommodation
จัดหาที่พักอาศัย นัดหมายรับส่งนักเรียน นักศึกษาระหว่างสนามบินและที่พัก

Document Support
แนะนำเรื่องเอกสารและคุณสมบัติต่างๆ ในการสมัครเรียน รวมถึงดำเนินการสมัคร และอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่า

Booking Flights
บริการจองตั๋วเครื่องบิน และแนะนำเส้นทางที่เหมาะสมในการเดินทางของนักเรียน และผู้ปกครอง

Support & Monitor
ช่วยดูแลและติดตามผลการเรียนเพื่อรายงานผู้ปกครอง
🟩 LINE: https://line.me/R/ti/p/@imeducation
📞โทร 086-488-2446 หาดใหญ่, 081-608-0810 เชียงใหม่